บทความ

11.11.2564

“VARUNA” บริหารจัดการเกษตรยุคใหม่ด้วยปลายนิ้ว

“VARUNA” บริหารจัดการเกษตรยุคใหม่ด้วยปลายนิ้ว

ในยุคสมัยที่เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มตัว การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farming 4.0 ของประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศเกษตรกรรมมาอย่างยาวนาน จึงเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้มีศักยภาพไม่แพ้ประเทศใดในโลก

นับเป็นความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของการเกษตรไทย เมื่อ “วรุณา (VARUNA)” แพลตฟอร์มการเกษตรยุคใหม่ในรูปแบบ Smart Farming ฝีมือคนไทยในนามบริษัท เออาร์วี (AI and Robotics Ventures Ltd: ARV) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ปตท.สผ. (PTTEP) ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่เหล่าเกษตรกรให้สามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการจัดการฟาร์มอัจฉริยะแบบครบวงจร (End-to-End Smart Farm Management) ด้วยการใช้เทคโนโลยีดีพเทคและปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ - AI) มาช่วยตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหา (Pain Point) ของเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน จึงถือเป็น Digital Transformation ที่เข้ามาเพิ่มศักยภาพของระบบอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยให้พัฒนาไปไกลแบบก้าวกระโดด

สำหรับจุดแข็งของ “VARUNA” ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์ม Smart Farming แบบครบวงจร ก็คือการให้บริการที่หลากหลาย และครอบคลุมเรื่องการเกษตรในทุกมิติ ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรม จนไปถึงเกษตรกร เช่น

VARUNA Analytics: เป็นระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ให้บริการสำหรับภาครัฐ ภาคเอกชน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เพื่อเก็บข้อมูลภาพมุมสูงด้วยดาวเทียม, โดรนสำรวจ แสดงผลข้อมูลบน Dashboard เกี่ยวกับสภาพอากาศ ดิน น้ำ ความแห้งแล้ง จำแนกรายละเอียดพันธุ์พืช รวมถึงวิเคราะห์และคาดการณ์ผลผลิต หรือภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ จากข้อมูลจำนวนมาก (บิ๊กดาต้า) อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ ทำให้ช่วยลดปัญหาการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญ และสร้างมาตรฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

VARUN Application: เป็นแอปพลิเคชันสำหรับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่เกษตรหน้างานในการบริหารจัดการพื้นที่และติดตามกิจกรรมบนแปลงเกษตรแบบครบวงจร เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่าน Play Store เพื่อทำการติดตั้งบนมือถือ ในปัจจุบันแอปฟลิเคชัน VARUN มีฟีเจอร์หลักคือ การวาดแปลง การกรอกและติดตามกิจกรรมบนพื้นที่รายแปลง รวมถึงการแจ้งเตือนกิจกรรมตามเวลาที่เหมาะสม และการแชร์ข้อมูลแปลงเกษตร

Sprayer Drone Service: เป็นบริการโดรนเกษตรอัจฉริยะที่มีเครือข่ายผู้ให้บริการ สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยใช้งานควบคู่กับ VARUN Application เพื่อจัดการกิจกรรมรายแปลงของเกษตรกรในเครือข่าย ทำให้สามารถบริหารจัดการแปลงเกษตรขนาดใหญ่อย่างการฉีดพ่นข้ามเขตจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือแม้แต่ในพื้นที่ที่เดินทางเข้าถึงได้ยากก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีบริการที่ช่วยจัดการในเรื่องของการจ่ายเงิน การขนส่ง รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำรายงานติดตามผลการฉีดพ่นร่วมกับระบบ Varuna Analytics ได้ ทำให้ช่วยลดความเสียหายของผลผลิต ลดการสัมผัสสารเคมีโดยตรง ช่วยในการทำงานเร็วขึ้น 10 เท่า (โดรนฉีดพ่นได้ 100 ไร่ /วัน) ฉีดพ่นได้สม่ำเสมอทั่วทั้งแปลงโดยไม่มีส่วนที่พ่นซ้ำ ประหยัดการใช้น้ำถึง 10 เท่า (เหลือเพียง 4-5 ลิตร / ไร่) จึงทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ขายได้ราคา สามารถวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ (Precision Farming) ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา รวมถึงแก้ปัญหาด้านแรงงานได้ด้วยเพียงปลายนิ้วสัมผัส

นอกจากนี้ “VARUNA” ยังมีอีกหนึ่งแพลตฟอร์มน่าสนใจที่เรียกว่า Smart Forestry ซึ่งเป็นการจัดการพื้นที่สีเขียวแบบครบวงจร (End-to-End Green Area Management) ที่มี Forest Monitoring คอยติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียว ด้วยเทคโนโลยีดาวเทียม GIS และโดรนมัลติสเปกตรัม, Forest Classification ช่วยจำแนกประเภทของป่าด้วยภาพถ่ายดาวเทียมปราศจากเมฆโดยใช้ระบบ AI ในการประมวลผล เพื่อวางแผนและบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมี Carbon Credit Model ที่มีความสำคัญในเก็บข้อมูลและติดตามปริมาณการดูดซับคาร์บอนของพื้นที่สีเขียว เพื่อเป้าหมายในการสร้างแพลตฟอร์มการซื้อขาย Carbon Credit แห่งเเรกของประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย

“VARUNA” ถือเป็นกุญแจสำคัญแห่งความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับกลุ่มเกษตรกรไทย พร้อมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักวิจัยไทยในการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้กับเกษตรกรไทย และยังช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้เติบโตไปพร้อม ๆ กันอย่างมีคุณภาพ ตามพันธกิจที่ “VARUNA” ยึดถือ ซึ่งนั่นก็คือ "Growing with data, harvesting with intelligence"

สามารถชมคลิปวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้างล่างนี้
: https://www.facebook.com/WangchanValleyOfficial/videos/327610492504799 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหาการลงทุนเพื่อผลักดันอนาคตเศรษฐกิจของไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็นเมืองต้นแบบและแหล่งรวมนวัตกรรมชั้นนำของเอเชีย “วังจันทร์วัลเลย์” พร้อมแล้วที่จะเปิดพื้นที่แห่งโอกาสเพื่อต้อนรับนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์เช่นคุณ ให้เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในเมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากมายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมอันสร้างสรรค์ บนทำเลศักยภาพในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi)

สำหรับนักลงทุนที่สนใจมาร่วมใช้พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปด้วยกันกับเรา ที่  “วังจันทร์วัลเลย์