บทความ

ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ยกระดับเกษตรกรไทยให้ก้าวไกลด้วยนวัตกรรม

แหล่งการเรียนรู้สำคัญในการพลิกภาพลักษณ์เกษตรกรไทยยุคใหม่ ให้เป็นอาชีพที่น่าภาคภูมิใจและยั่งยืน 

ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างมหาศาล และอาชีพเกษตรกรก็นับเป็นอาชีพสำคัญที่สร้างผลิตผลให้กับคนไทยและต่างประเทศมาช้านาน จนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น “ครัวของโลก” แต่ในอดีตอาชีพนี้มักจะถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้แรงงาน และมักได้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าสักเท่าใดนัก เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่อาจจะยังเข้าไม่ถึงความรู้และเทคโนโลยีทางการเกษตรใหม่ ๆ จึงทำให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยมีความแตกต่างจากเกษตรกรในต่างประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรสูงเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกค่อนข้างมาก

นอกจากความรู้ทางเทคโนโลยีที่ต้องได้รับการพัฒนาแล้ว ยังมีปัญหาในด้านต่าง ๆ อีกมากมายที่เหล่าเกษตรกรไทยต้องเผชิญ เช่น เรื่องผลิตผลที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด การจัดการเก็บเกี่ยวไม่ดีพอ ทำให้ผลิตผลที่ได้ไม่มีคุณภาพและขายไม่ได้ราคา จนประสบปัญหาภาวะขาดทุนและหนี้สิน รวมไปถึงการใช้ปัจจัยการผลิตที่สิ้นเปลืองเกินความจำเป็น ขาดความรู้ในการใช้สารเคมี จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

เพื่อต่อยอดอาชีพเกษตรกรไทย และยกระดับให้ก้าวไกลด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี “ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา” จึงได้ร่วมมือกับ “บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)” ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาและวิจัยทางการเกษตร ผ่านแหล่งเรียนรู้ “โรงเรือนต้นแบบ” หรือ “ฟาร์มอัจฉริยะ” ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ เพื่อให้ความรู้เกษตรกรรมสมัยใหม่แก่บรรดาเกษตรกร รวมถึงผู้สนใจทั่วไป โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ (Innovation Agriculture) ที่มีประสิทธิภาพ และมีความแม่นยำสูง มาบูรณาการให้เข้ากับเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มผลิตผลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้ และมุ่งหวังเพื่อแก้ไขปัญหาพร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยยุคใหม่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สำหรับจุดเด่นของศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา คือ เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคต ทั้งการเพาะปลูก และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ ภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศในระยะยาว

โดยภายในโรงเรือนต้นแบบ หรือ ฟาร์มอัจฉริยะแห่งนี้ มีทั้งโรงเรือนกระจก (Green House) โรงเรือนเพาะชำ (Nursery) โรงเรือนปลูกผักแบบไม่ใช้ดิน โรงเรือนปลูกเห็ด โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ระบบปิด โรงเรือนผสมอาหาร ห้องฟักไข่ ตลอดจนห้องแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกทักษะการวางแผน ให้สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ทางการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ที่ครบครัน มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดค่าที่สำคัญภายในโรงเรือน โดยเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ภายในฟาร์มด้วยระบบโครงข่ายสารสนเทศที่มีความแม่นยำสูง และประมวลผลด้วยโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยตัดสินใจ และทำให้เกษตรกรสามารถควบคุมปัจจัยการผลิตเพื่อให้ได้พืชผลและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เป็นการช่วยลดความสูญเสียจากการใช้ปัจจัยการผลิตที่สิ้นเปลืองเกินความจำเป็น รวมถึงช่วยจัดการผลิตผลทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยวให้คงคุณภาพไว้ได้นานที่สุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการแปรรูปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงไปสู่มือผู้บริโภค จึงเป็นการช่วยทุ่นแรงและแก้ปัญหาทางการเกษตรได้อย่างยั่งยืน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองเห็นความสำคัญในการผลักดันอนาคตเศรษฐกิจของไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็นเมืองต้นแบบและแหล่งรวมนวัตกรรมชั้นนำของเอเชีย “วังจันทร์วัลเลย์” พร้อมแล้วที่จะเปิดพื้นที่แห่งโอกาสเพื่อต้อนรับนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์เช่นคุณ ให้เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในเมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากมายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมอันสร้างสรรค์ บนทำเลศักยภาพในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi)

สำหรับนักลงทุนที่สนใจมาร่วมใช้พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปด้วยกันกับเราที่ "วังจันทร์วัลเลย์"