บทความ

เทคโนโลยี IoT ยกระดับอุตสาหกรรมด้านอาหาร

เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านอาหารของไทยให้แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในแนวหน้าของโลกเทคโนโลยี IoT จึงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลายทางของอุตสาหกรรมด้านอาหาร

Internet of Things หรือ IoT คือ ตัวแปรสำคัญของอุตสาหกรรมด้านอาหารที่เข้ามาช่วยเหลือในทุก ๆ กระบวนการไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการผลิต ควบคุมเครื่องจักร และคอยควบคุมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ในโรงงาน ได้อย่างแม่นยำ ในปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของอุตสาหกรรม ได้แก่

เทคโนโลยี IoT ในฟาร์มเพาะปลูกและปศุสัตว์
เพื่อให้ฟาร์มมีผลผลิตที่มีคุณภาพก่อนส่งต่อไปสู่โรงงาน IoT คือ สิ่งสำคัญที่ช่วยในการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ เช่น ในฟาร์มเพาะปลูกช่วยให้รู้ข้อมูลจาก Sensor IoT ที่ได้นำไปติดตั้งในส่วนต่าง ๆ ของฟาร์มทำให้รู้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น สภาพอากาศ ความชื้นของดินในพื้นที่ กำหนดเวลาและสถานที่ที่ต้องใส่ปุ๋ยและน้ำด้วยระบบ GPS ที่ช่วยจ่ายปริมาณน้ำเหมาะสมสำหรับพืชแต่ละชนิด  และช่วยเปิด - ปิดน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกได้อัตโนมัติ ทำให้เกษตรกรสามารถคาดการณ์ในการจัดการในกระบวนการทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตและคุณภาพให้สูงขึ้นได้อีกด้วย  

ต่อมาในส่วนของฟาร์มปศุสัตว์ Sensor IoT ที่ถูกติดตั้งไว้พื้นที่จะทำหน้าที่ช่วยตรวจสอบน้ำหนักของสัตว์ในฟาร์ม ส่งสัญญาณสุขภาพของสัตว์เข้าระบบเพื่อตรวจสอบ นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดเวลาให้อาหารและน้ำแก่สัตว์ในฟาร์มเป็นเวลา และยังทำให้เจ้าของฟาร์มสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ เช่น อุณหภูมิในและความชื้นในคอกสัตว์ การระบายอากาศ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตที่จะได้ออกมานั้นสูงขึ้น

อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
ผู้ผลิตสามารถคาดการณ์จำนวนการผลิตได้อย่างแม่นยำก่อนที่จะจำหน่ายสู่ตลาด และ Sensor IoT  ส่งรายงานข้อมูลต่าง ๆ แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะนำมาช่วยในการประเมินและวางแผนในการส่งสินค้าออกไปได้ปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงช่วยในการกำหนดราคาของสินค้า ลดต้นทุน ลดความเสียหายต่อธุรกิจ อีกทั้งช่วยเพิ่มทักษะให้พนักงานในโรงงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลในกระบวนการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้กับธุรกิจ

ซึ่งระบบที่ถูกใช้ควบคุมอัจฉริยะ คือ ระบบควบคุมอัจฉริยะรูปแบบไมโครคอนโทรลเลอร์ และ Programmable Logic Controller (PLC) ที่จะนำเซนเซอร์ไปติดตั้งที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในโรงงาน เพื่อใช้ในการตรวจสอบกระบวนการการทำงาน ภาพรวมของเครื่องจักร และส่งสัญญาณแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ควบคุม

เทคโนโลยี IoT กับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและความปลอดภัยของอาหาร
จะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในท้องตลาด ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์จาก QR code  ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงปลายทางทำให้มั่นใจได้ว่าผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดปลอดภัยตามมาตรฐานสำนักงานกรรมการอาหารและยา รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ IoT กับอาหารบนโต๊ะ เช่น การใช้ Smart Lable ที่ช่วยให้ผู้บริโภคตรวจสอบข้อมูลของสินค้าที่วางขายอยู่ในร้านค้าต่าง ๆ ว่าเป็นสินค้าจากผู้ผลิตรายใด เส้นทางเป็นอย่างไร จนถึงวางขาย ซึ่งการใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลนับพันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว 

เทคโนโลยี IoT นี้สามารถทำงานควบคู่ไปกับเทคโนโลยี “คลาวด์ (Cloud) และ AI (ระบบปัญญาประดิษฐ์)” ในการจัดเก็บข้อมูลมหาศาลที่หลั่งไหลมาจากอุปกรณ์ IoT ในพื้นที่ และนำมาวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของอุตสาหกรรมไปอีกขั้น

ซึ่งวังจันทร์วัลเลย์พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มนักวิจัย และนักพัฒนา ที่ต้องใช้พื้นที่ ห้องวิจัยและอื่น ๆ สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับขีดความสามารถ และเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรมอาหารไทยให้อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก 

“วังจันทร์วัลเลย์” มุ่งเน้นในการผลักดันเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนไทย พื้นที่แห่งนี้พร้อมเปิดโอกาส สนับสนุน และต่อยอดความสำเร็จให้เหล่านักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์เช่นคุณ เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวที่รายล้อมบนทำเลศักยภาพในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) มุ่งสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ก้าวสู่การเป็นเมืองต้นแบบและแหล่งรวมนวัตกรรมชั้นนำของเอเชีย 

สำหรับนักลงทุนที่สนใจมาร่วมใช้พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปด้วยกันกับเรา ที่ "วังจันทร์วัลเลย์"