บทความ

09.12.2564

ปตท. บ่มเพาะคนกล้าสายวิทย์ที่ VISTEC และ KVIS

ปตท. บ่มเพาะคนกล้าสายวิทย์ที่ VISTEC และ KVIS

เพราะวิทยาศาสตร์เป็นรากฐานของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะมาช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้โลกน่าอยู่ขึ้น และคงจะดีไม่น้อยหากเราปูพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แก่คนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาโลกในอนาคต

กลุ่ม ปตท. ได้เล็งเห็นศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงได้ก่อตั้ง “โรงเรียนกำเนิดวิทย์ หรือ KVIS” และ “สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC” ขึ้นมาเพื่อเป็นสถาบันศึกษาที่มุ่งเน้นการปั้นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยที่จะมาสร้างรากฐานใหม่ให้กับการพัฒนาประเทศสู่อนาคต ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของวังจันทร์วัลเลย์ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) จ.ระยอง

โรงเรียนกำเนิดวิทย์ หรือ KVIS เป็นโรงเรียนประจำระดับมัธยมปลายที่กลุ่ม ปตท. ต้องการวางรากฐานเพื่อเฟ้นหาเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้สามารถศึกษาต่อทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของโลกจนถึงระดับปริญญาเอกและหลังปริญญาเอกได้ พร้อมทั้งสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างเต็มรูปแบบให้กับนักเรียนทุกคน เพื่อสร้างองค์ความรู้และพัฒนาทักษะความสามารถให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตามความหมายของชื่อโรงเรียนที่หมายถึง “โรงเรียนที่เป็นแหล่งความรู้” นั่นเอง 

ขณะเดียวกันก็มีสถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดการเรียนการสอนเฉพาะระดับปริญญาโท ปริญญาเอก และสนับสนุนนักวิจัยเป็นรายโครงการ เพื่อมุ่งเป้าไปที่การศึกษาขั้นสูงและการวิจัย ตรงจุดความต้องการของประเทศ โดยมี 4 สาขาวิชาให้เลือก คือ 1. สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล 2. สำนักวิชาวิทยาการพลังงาน 3. สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล และ 4. สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD) คาดการณ์ว่าสาขาวิชาเหล่านี้ จะเป็นวิทยาการสำคัญของโลก

เป้าหมายของ VISTEC คือ การสร้างนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญระดับสูงโดยเฉพาะ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อันเป็นวิทยาการที่สำคัญในยุคปัจจุบันและอนาคต โดยมีรูปแบบการเรียนการสอนที่สนับสนุนให้นักวิจัยสามารถปฏิบัติงานบนโจทย์จริง เพื่อตอบรับตามความต้องการในเชิงพาณิชย์ได้อย่างตรงจุด ช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนทักษะและยกระดับขีดความสามารถของนักวิจัยไทยในการแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างทัดเทียม

นอกจากนี้ VISTEC ยังเป็นแหล่งความรู้ที่เพียบพร้อมด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแนวหน้า หรือ Frontier Research Center (FRC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางขององค์ความรู้ให้กับนักวิจัยได้พัฒนาศักยภาพให้ก้าวทันนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ และที่สำคัญ VISTEC ยังได้รับการจัดอันดับงานวิจัยที่มีคุณภาพจาก Nature Index Ranking 2017 ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทย ในสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสาขาวิชาเคมี รวมถึงถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 12 ในหมวดของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีอีกด้วย

จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการปลูกฝังและวางรากฐานทางความรู้ที่แข็งแรงให้กับระบบการศึกษาไทยในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. เราจึงเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้า เหล่าเยาวชนและนักวิจัยที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพเหล่านี้ จะเป็น “คนกล้าสายวิทย์” ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้พัฒนาไปสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างมั่นคงได้ในที่สุด

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองเห็นความสำคัญในการผลักดันอนาคตเศรษฐกิจของไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็นเมืองต้นแบบและแหล่งรวมนวัตกรรมชั้นนำของเอเชีย “วังจันทร์วัลเลย์” พร้อมแล้วที่จะเปิดพื้นที่แห่งโอกาสเพื่อต้อนรับนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์เช่นคุณ ให้เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในเมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากมายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมอันสร้างสรรค์ บนทำเลศักยภาพในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) 

สำหรับนักลงทุนที่สนใจมาร่วมใช้พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปด้วยกันกับเรา ที่ “วังจันทร์วัลเลย์