บทความ

08.07.2564

“Ecosystem แห่งวังจันทร์” ระบบนิเวศเมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต

“Ecosystem แห่งวังจันทร์” ระบบนิเวศเมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต 

กว่าจะเป็นเมืองนวัตกรรมระดับโลกมีเบื้องหลังความสำเร็จอย่างไร?

การที่เมืองนวัตกรรมระดับโลกสักเมืองหนึ่งอย่าง Silicon Valley จะประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้มาจากส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ล้วนมาจากหลาย ๆ องค์ประกอบที่ทำงานสอดประสานกันเป็นระบบนิเวศหรือ Ecosystem ที่ช่วยผลักดันให้เกิดนวัตกรรมจนประสบความสำเร็จระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ

เช่นเดียวกับ “วังจันทร์วัลเลย์” โครงการ Smart City ของปตท. ที่ตั้งเป้าสู่การเป็นเมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ จึงวางรากฐานให้พื้นที่แห่งนี้มีระบบนิเวศนวัตกรรมที่เป็นเลิศ (Smart Innovation Ecosystem) ซึ่งประกอบด้วยการร่วมมือจากพันธมิตร 5 ส่วนสำคัญ ที่ทำงานสอดประสานกันเพื่อให้เกิดเป็นผลงานนวัตกรรมชิ้นสำคัญ ดังนี้

1. Startups, SMEs, System Integrator, Angel Investor, Venture Capital กลุ่มนี้คือผู้ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพัฒนาศักยภาพสร้างขีดความสามารถเพื่อนำออกสู่ตลาดและขยายผลทางธุรกิจในอนาคต ได้แก่
• SME ย่อมาจาก Small and Medium Enterprise คือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีการจ้างงานไม่เกิน 50-200 คน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ กิจการค้าปลีก กิจการการค้า และกิจการบริการ
• ธุรกิจ Startups คือ กิจการที่ตั้งขึ้นเพื่อค้นหาโมเดลธุรกิจ (business model) ที่ทำซ้ำได้ (repeatable) และขยายตัวได้ (scalable) ที่สร้างธุรกิจใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ส่วนมากเป็นธุรกิจที่ตอบสนองการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน และเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ
• Angel Investor คือนักลงทุนอิสระหรือกลุ่มนักลงทุนอิสระที่ใช้เงินส่วนตัวในการลงทุนในธุรกิจ Startupsในช่วงเริ่มต้นซึ่งเหมาะกับธุรกิจที่ลงทุนไม่สูงมาก
• Venture Capital หรือ VC คือ ผู้สนับสนุนเงินลงทุนจำนวนมากให้กับ Startups ที่มีศักยภาพ มีรูปแบบเสมือนเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Startups โดยเน้นการลงทุนระยะยาว
• System Integrator (SI) คือธุรกิจที่ให้บริการด้านการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายและเทคโนโลยีให้กับองค์กรต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบแนวคิด การวิเคราะห์กระบวนการผลิต รวมไปจนถึงการติดตั้ง AI หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ SI จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันให้เกิดการนำระบบต่างๆ ไปใช้ในสายการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและแพร่หลายมากขึ้น เพื่อให้เกิด solution ที่เหมาะสมที่สุด

2. ความเป็นเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่อาศัย กลุ่มนี้คือพันธมิตรผู้พัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ให้มีความเป็นเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่อาศัยและเหมาะกับการใช้ชีวิต ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น บริการรถบัสไฟฟ้าสาธารณะ บริการ Smart Bus Stop จุดพักคอยแบบอัจฉริยะ รองรับสัญญาณ Wi-Fi ทั่วพื้นที่ส่วนกลาง มีอาคารปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligent Operation Center - IOC) เพื่อเป็นศูนย์กลางการควบคุมระบบสาธารณูปโภคและรักษาความปลอดภัยทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการใช้ชีวิตแบบคนเมือง เช่น ศูนย์การค้า สถานที่ออกกำลังกาย ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs, Startups, นักลงทุน, นักวิจัย และครอบครัว ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งด้านการทำงานและการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

3. องค์กรชั้นนำของไทยและต่างชาติ กลุ่มนี้คือหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานเอกชนชั้นนำจากประเทศไทยและต่างชาติที่ร่วมมือกันวางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้วังจันทร์วัลเลย์มีความพร้อมสู่การพัฒนาสิ่งใหม่

4. สถาบันวิจัยและพัฒนาของไทยและต่างชาติ หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรสำคัญที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง รวมถึงหน่วยงานที่ให้บริการด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับ New S-Curve ซึ่งเป็น 6 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนพื้นที่ EECi ของวังจันทร์วัลเลย์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรรมในพื้นที่ควบคู่ไปกับการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และดึงดูดกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ

5. โรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ หาก Silicon Valley มีมหาวิทยาลัย Stanford ที่สนับสนุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ที่วังจันทร์วัลเลย์ก็มีโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) สถานศึกษาที่บ่มเพาะบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับปริญญาโท-ปริญญาเอก ซึ่งก่อตั้งขึ้นจากการสนับสนุนของกลุ่ม ปตท. และจากพันธมิตรร่วมอุดมการณ์ ที่เห็นความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ต้องเริ่มจากพื้นฐานทางการศึกษาและคิดค้นองค์ความรู้ใหม่เพื่อพัฒนานวัตกรรมและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์

ทั้งหมดนี้คือพันธมิตรในระบบนิเวศ (Ecosystem) ของวังจันทร์วัลเลย์ที่ช่วยกันทำงานสอดประสานเพื่อก้าวสู่การเป็นเมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต ที่เป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและเป็น Silicon Valley แห่งเมืองไทยได้อย่างยั่งยืน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองเห็นอนาคตของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรม “วังจันทร์วัลเลย์” พร้อมแล้วที่จะเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนในเมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ บนทำเลศักยภาพในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) พร้อมด้วยสิทธิพิเศษมากมายแก่นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย ฯลฯ

มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปด้วยกันกับเรา ที่ “วังจันทร์วัลเลย์