Blog

18.11.2021

โรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี สู่เทคโนโลยีชีวภาพ

โรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี สู่เทคโนโลยีชีวภาพ

เมื่อพูดถึงคำว่า “เทคโนโลยีชีวภาพ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นสิ่งที่พบเจอได้ยาก และมักเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่คุณรู้หรือไม่ ? ว่าในความเป็นจริงแล้วเทคโนโลยีชีวภาพคือสิ่งที่ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับมนุษยชาติอยู่เรื่อยมา และมักเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด ! 

นับเป็นพัน ๆ ปีมาแล้วที่มนุษย์ได้ใช้เทคโนโลยีชีวภาพมาเกี่ยวข้องทั้งในเรื่องของการเกษตร การผลิตอาหารในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการทำยารักษาโรค อย่างเช่น วัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน 

คงต้องยอมรับแล้วว่าทุกวันนี้ความก้าวหน้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพนั้นมีความสำคัญและเข้ามาอำนวยความสะดวกสบายต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ในทุกมิติ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการนำทรัพยากรธรรมชาติกลับมาใช้ใหม่โดยกระบวนการที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืน โดยมีการพัฒนาด้านการเกษตรผสมผสานเข้ากับองค์ความรู้ด้านอื่น ๆ อย่างมีคุณภาพ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศให้เข้าสู่ระดับสากล 

สำหรับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพในประเทศไทย ส่วนหนึ่งของพื้นที่ EECi ใน “วังจันทร์วัลเลย์” ได้มีการจัดตั้ง “เมืองนวัตกรรมชีวภาพ” ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “โรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี” เพื่องานวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพและเคมี ที่ได้มาตรฐานทั้ง GMP และ Non-GMP และโครงการนี้ได้นักวิจัยหัวกะทิของประเทศไทยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากประเทศเบลเยียม โดยมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมฐานชีวภาพตามนโยบาย BCG MODEL (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศ เนื่องจากทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคอยผลักดันงานวิจัยให้ได้รับการต่อยอดสู่การใช้งานในเชิงพาณิชย์ ช่วยทดแทนการผลิตจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยนำผลผลิตและวัตถุดิบธรรมชาติที่เหลือทิ้งจากภาคการเกษตรสมัยใหม่ นำไปผ่านกระบวนการผลิตทางเคมีชีวภาพ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ทั้งวัสดุชีวภาพ, พลาสติกชีวภาพ, อาหาร, เครื่องสำอาง และยา ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าทางการเกษตร ซึ่งถือเป็นการนำทรัพยากรมาหมุนเวียนใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด และด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เนื่องจากประเทศไทยมีต้นทุนทางทรัพยากรชีวภาพที่มากเป็นอันดับ 6 ของโลก จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีวภาพของไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Hub) ของอาเซียน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหาการลงทุนเพื่อผลักดันอนาคตเศรษฐกิจของไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็นเมืองต้นแบบและแหล่งรวมนวัตกรรมชั้นนำของเอเชีย “วังจันทร์วัลเลย์” พร้อมแล้วที่จะเปิดพื้นที่แห่งโอกาสเพื่อต้อนรับนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์เช่นคุณ ให้เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในเมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากมายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมอันสร้างสรรค์ บนทำเลศักยภาพในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) 

สำหรับนักลงทุนที่สนใจมาร่วมใช้พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี, ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ, ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปด้วยกันกับเรา ที่  “วังจันทร์วัลเลย์